สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า “Hit Frequency” หรือ ความถี่ของการจ่ายรางวัล ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ High Hit Frequency และ Low Hit Frequency
🧠 Hit Frequency คืออะไร?
Hit Frequency หมายถึง “เปอร์เซ็นต์ของจำนวนรอบที่ผู้เล่นจะได้รับรางวัล” ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เช่น เกมที่มีค่า Hit Frequency = 35% หมายความว่าใน 100 สปิน จะชนะประมาณ 35 ครั้ง
🔹 High Hit Frequency: สล็อตจ่ายบ่อย แต่รางวัลน้อย
✅ ลักษณะเด่น:
ชนะบ่อย → เล่นแล้วไม่รู้สึกแห้ง
รางวัลเล็ก เช่น 1x – 5x
โบนัสมาบ่อย แต่ไม่หวือหวา
✅ เหมาะกับ:
มือใหม่
คนที่เล่นเพื่อความสนุก
สาย “ปลอดภัยคงที่”
🧩 เกมที่อยู่ในกลุ่มนี้:
Starburst (NetEnt)
Twin Spin (NetEnt)
Fruit Party (Pragmatic Play)
🔻 ข้อเสียของ High Hit Frequency
ได้บ่อยแต่ไม่คุ้มทุน
เล่นนานกำไรไม่สูง
แจ็คพอตน้อย หรือไม่มีเลย
🔺 Low Hit Frequency: สล็อตจ่ายไม่บ่อย แต่แตกทีหนัก
✅ ลักษณะเด่น:
ต้องหมุนหลายครั้งก่อนชนะ
รางวัลมักเป็น Big Win หรือ Bonus Game
มีความตื่นเต้นสูงในแต่ละสปิน
✅ เหมาะกับ:
สายล่าแจ็คพอต
มีวินัยสูง
พร้อมรับความเสี่ยงเพื่อกำไรใหญ่
🧩 เกมที่อยู่ในกลุ่มนี้:
Dead or Alive 2 (NetEnt)
Gates of Olympus (Pragmatic Play)
Money Train 2 (Relax Gaming)
🔍 เปรียบเทียบเชิงกลยุทธ์
คุณสมบัติ
High Hit Frequency
Low Hit Frequency
ความถี่การชนะ
สูง
ต่ำ
ความเสี่ยง
ต่ำ
สูง
ความคุ้มค่าเฉลี่ย
ต่ำ-กลาง
สูง
ความนิยม
มือใหม่นิยม
มือโปรนิยม
โบนัสใหญ่
น้อย
เยอะ
🎯 กลยุทธ์เลือกเกมที่เหมาะกับคุณ
🔹 ถ้าคุณเป็นคนที่…
งบจำกัด
เล่นเพลินรายวัน
ไม่ต้องการลุ้นแจ็คพอตใหญ่
👉 ให้เลือก High Hit Frequency เช่น Starburst หรือ Fruit Shop
🔹 ถ้าคุณเป็นคนที่…
มีเป้าหมายสร้างกำไรจริงจัง
พร้อมยอมรับการขาดทุนระยะสั้น
ชอบความท้าทาย
👉 ให้เลือก Low Hit Frequency เช่น Dead or Alive 2 หรือ Gates of Olympus redkong89